บัมแบร์ค
บัมแบร์ค | |
---|---|
ศาลากลางเก่า | |
พิกัด: 49°53′29″N 10°53′13″E / 49.89139°N 10.88694°E | |
ประเทศ | เยอรมนี |
รัฐ | ไบเอิร์น |
จังหวัด | โอเบอร์ฟรังเคิน |
อำเภอ | นครนอกอำเภอ |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี (2020–26) | Andreas Starke[1] (SPD) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 54.62 ตร.กม. (21.09 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 262 เมตร (860 ฟุต) |
ประชากร (2020-12-31)[2] | |
• ทั้งหมด | 76,674 คน |
• ความหนาแน่น | 1,400 คน/ตร.กม. (3,600 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+01:00 (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+02:00 (CEST) |
รหัสไปรษณีย์ | 96047, 96049, 96050, 96051, 96052 |
รหัสโทรศัพท์ | 0951 |
ทะเบียนพาหนะ | BA |
เว็บไซต์ | www |
ชื่อทางการ | เมืองบัมแบร์ค |
เกณฑ์พิจารณา | วัฒนธรรม: ii, iv |
อ้างอิง | 624 |
ขึ้นทะเบียน | 1993 (สมัยที่ 17th) |
พื้นที่ | 142 เฮกตาร์ |
พื้นที่กันชน | 444 เฮกตาร์ |
บัมแบร์ค (เยอรมัน: Bamberg) เป็นเมืองในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาคโอเบอร์ฟรังเคินบนฝั่งแม่น้ำเรกนิทซ์ไม่ไกลจากจุดที่บรรจบกับแม่น้ำไมน์ บัมแบร์คเป็นเมืองเพียงไม่กี่แห่งในเยอรมนีที่รอดพ้นจากการถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศในสงครามโลกครั้งที่สอง บัมแบร์คเป็นที่พำนักของชาวต่างประเทศเกือบ 7,000 คนรวมทั้งกว่า 4,100 คนที่เป็นทหารจากสหรัฐอเมริกา ชื่อเมือง “บัมแบร์ค” เชื่อว่ามีที่มาจากตระกูลบาเบินแบร์ค
ภูมิศาสตร์
[แก้]ภูมิอากาศ
[แก้]ข้อมูลภูมิอากาศของบัมแบร์ค | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 15.8 (60.4) |
18.1 (64.6) |
24.1 (75.4) |
31.8 (89.2) |
32.9 (91.2) |
35.5 (95.9) |
37.5 (99.5) |
37.8 (100) |
32.2 (90) |
27.6 (81.7) |
19.0 (66.2) |
14.8 (58.6) |
37.8 (100) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 3.0 (37.4) |
4.9 (40.8) |
9.9 (49.8) |
14.9 (58.8) |
19.8 (67.6) |
22.6 (72.7) |
24.8 (76.6) |
24.6 (76.3) |
19.9 (67.8) |
14.2 (57.6) |
7.5 (45.5) |
4.0 (39.2) |
14.2 (57.6) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 0.0 (32) |
1.0 (33.8) |
5.0 (41) |
8.8 (47.8) |
13.6 (56.5) |
16.6 (61.9) |
18.7 (65.7) |
18.3 (64.9) |
14.2 (57.6) |
9.5 (49.1) |
4.3 (39.7) |
1.3 (34.3) |
9.3 (48.7) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | -3.1 (26.4) |
-2.9 (26.8) |
0.0 (32) |
2.8 (37) |
7.3 (45.1) |
10.6 (51.1) |
12.6 (54.7) |
12.0 (53.6) |
8.5 (47.3) |
4.8 (40.6) |
1.1 (34) |
-1.5 (29.3) |
4.4 (39.9) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -26.4 (-15.5) |
-23.4 (-10.1) |
-18.2 (-0.8) |
-8.5 (16.7) |
-3.4 (25.9) |
2.4 (36.3) |
3.9 (39) |
2.4 (36.3) |
-0.3 (31.5) |
-7.4 (18.7) |
-16.8 (1.8) |
-21.6 (-6.9) |
−26.4 (−15.5) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 47.9 (1.886) |
37.4 (1.472) |
45.6 (1.795) |
40.0 (1.575) |
64.6 (2.543) |
63.4 (2.496) |
77.6 (3.055) |
56.9 (2.24) |
56.3 (2.217) |
49.8 (1.961) |
52.5 (2.067) |
55.1 (2.169) |
647.1 (25.476) |
แหล่งที่มา: Weather and climate in Bamberg |
ประวัติ
[แก้]หลังจากที่จักรวรรดิโรมันเสื่อมโทรมลง ยุโรปก็เข้าสู่สมัยของการโยกย้ายและการตั้งถิ่นฐานของชนกลุ่มต่าง ๆ ที่รวมทั้งชนเจอร์มานิค บริเวณนี้ก็ไปรวมอยู่ในมุขมณฑลบัมแบร์คและกลายมาเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวสลาฟ
ชื่อเมืองบัมแบร์คที่กล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 902 เจริญขึ้นใกล้ ๆ ปราสาทบาเบนเบิร์ค (Babenberch) ที่แผลงมาเป็นชื่อของตระกูลบาเบินแบร์ค หลังจากตระกูลบาเบินแบร์คสิ้นสุดลง บัมแบร์คก็ตกไปเป็นของตระกูลชาวซัคเซิน แคว้นนี้มาเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์โดยการเผยแพร่ศาสนาของนักพรตคณะเบเนดิกตินจากอารามฟุลดา บัมแบร์คขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมุขมณฑลเวือทซ์บวร์ค
ในปี ค.ศ. 1007 จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ก็ทรงย้ายมาตั้งราชสำนักที่บัมแบร์คและทรงก่อตั้งให้เป็นมุขมณฑลอิสระจากมุชมณฑลเวือทซ์บวร์ค เพื่อเป็นการริดอำนาจของมุขมณฑลเวือทซ์บวร์คลงบ้าง และยังเป็นการสร้างฐานในการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ให้ไกลยิ่งขึ้นไปในบริเวณทางตะวันออกของบัมแบร์ค ในปี ค.ศ. 1008 หลังจากการเจรจาต่อรองกับทั้งมุขนายกแห่งเวือทซ์บวร์คและไอคชเสตทท์ผู้ต้องเสียดินแดนบางส่วนให้กับมุขมณฑลใหม่
หลังจากการกำหนดอาณาเขตของมุขมณฑลใหม่ได้แล้วสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 8 ก็พระราชทานพระราชานุมัติในปีเดียวกัน จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 ก็ทรงจัดให้มีการก่อสร้างอาสนวิหารบัมแบร์คที่ได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1012 อาสนวิหารได้รับของขวัญต่าง ๆ จากสมเด็จพระสันตะปาปา
ในปี ค.ศ. 1017 จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 ก็ทรงก่อตั้งอารามคณะเบเนดิกตินชื่ออารามนักบุญมีคาเอล บน “ไมเคิลสแบร์ก” (Michaelsberg--เนินไมเคิล) เพื่อเป็นสถานที่สำหรับฝึกหัดนักพรต จักรพรรดิและจักรพรรดินีคูนีกุนเดอแห่งลักเซมเบิร์ก (Cunigunde of Luxemburg) ทรงอุทิศพระราชทรัพย์เป็นจำนวนมากให้แก่มุขมณฑลใหม่และทรงมอบอภิสิทธิ์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้เป็นการเพิ่มอำนาจการปกครองทางอาณาจักรให้แก่มุขนายกนอกไปจากอำนาจทางคริสตจักรที่มีอยู่ เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 8 ประพาสบัมแบร์คในปี ค.ศ. 1020 พระองค์ก็ทรงยกให้บัมแบร์คเป็นมุขมณฑลที่ขึ้นตรงต่อสันตะสำนัก ฉะนั้นบัมแบร์คจึงกลายเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ชั่วระยะหนึ่ง ร่างของจักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 และจักรพรรดินีคูนีกุนเดอยังคงฝังอยู่ที่อาสนวิหารที่มีอนุสาวรีย์ตั้งเด่นอยู่กลางโบสถ์
ตั้งแต่กลางคริสต์ศวคคษที่ 13 เป็นต้นมา มุขนายกแห่งบัมแบร์คก็ได้ยศเป็น "เจ้าชายมุขนายก" แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ มีหน้าที่ปกครองเมืองบัมแบร์คที่รวมทั้งการดูแลการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่าง ๆ ระหว่างปี ค.ศ. 1248 ถึงปี ค.ศ. 1260 มุขมณฑลก็ได้ที่ดินของเคานต์แห่งเมรันส่วนหนึ่งเป็นการซื้อขายแต่ส่วนหนึ่งเป็นการเวนคืนเพราะตระกูลที่ปกครองบริเวณนั้นมาสิ้นสุดลง ราชรัฐมุขนายกบัมแบร์คเดิมประกอบด้วยดินแดนที่ติดต่อกัน (บางรัฐไม่ติดต่อ) ตั้งแต่ชลึสเซลเฟลด์ (Schlüsselfeld) ไปจนถึงทางตะวันออกเฉียงเหนือทางป่าฟรังโกเนีย และยังเป็นเจ้าของดัชชีที่รวมทั้งดัชชีคารินเทียและซัลทซ์บวร์ค ในนอร์ดเกา (ปัจจุบันคือโอเบิร์พฟัลทซ์) ในรัฐทือริงเงิน และบนฝั่งแม่น้ำดานูบ แต่หลังจากการปฏิรูปศาสนามุขมณฑลบัมแบร์คก็ลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่
สถานที่น่าสนใจ
[แก้]ตัวเมืองเก่าของบัมแบร์คได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปีค.ศ. 1993 ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรม เพราะความมีคุณค่าที่ยังคงรักษาคุณลักษณะของเมืองในยุคกลางไว้อย่างเพียบพร้อม สถานที่น่าสนใจบางแห่งก็ได้แก่:
- อาสนวิหารบัมแบร์ค (ค.ศ. 1237) ที่เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์ของจักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระอัครมเหสีและอนุสรณ์ของสมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 2
- ทำเนียบมุขนายกหลังเดิม (Alte Hofhaltung) ที่ประทับของมุขนายกแห่งบัมแบร์คระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ 17
- ที่พำนักมุขนายกหลังใหม่ (Neue Residenz) ที่ประทับของมุขนายกแห่งบัมแบร์คหลังจากคริสต์ศตวรรษที่ 17
- อารามนักบุญมีคาเอล (คริสต์ศตวรรษที่ 12) บนเนินหนึ่งของ “เนินเจ็ดยอด” ของบัมแบร์ค
- ตึกเทศบาลเมืองเก่า (ค.ศ. 1386) สร้างคร่อมแม่น้ำเรกนิทซ์ที่เข้าได้จากสะพานสองข้าง
- เวนิสน้อย (Klein-Venedig) กลุ่มบ้านของคนหาปลาที่น่าดูจากคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตามฝั่งแม่น้ำเรกนิทซ์
- ตัวเมืองเก่า
-
ทำเนียบมุขนายกหลังเดิม
-
ที่พำนักมุขนายกหลังใหม่
-
เวนิสน้อย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Liste der Oberbürgermeister in den kreisfreien Städten, accessed 19 July 2021.
- ↑ "Tabellenblatt "Daten 2", Statistischer Bericht A1200C 202041 Einwohnerzahlen der Gemeinden, Kreise und Regierungsbezirke". Bayerisches Landesamt für Statistik (ภาษาเยอรมัน). June 2021.
ดูเพิ่ม
[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ บัมแบร์ค