ข้ามไปเนื้อหา

จัสติน ฮอยต์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จัสติน ฮอยต์
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม จัสติน เรย์มอนด์ ฮอยต์
วันเกิด (1984-11-20) 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1984 (39 ปี)
สถานที่เกิด เลย์ตันสโตน ,เกรเทอร์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ส่วนสูง 1.83 m (6 ft 0 in)
ตำแหน่ง แบ็คขวา
สโมสรเยาวชน
19932–2002 อาร์เซนอล
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2003–2008 อาร์เซนอล 34 (1)
2005–2006ซันเดอร์แลนด์ (ยืมตัว) 27 (1)
2008–2014 มิดเดิลสโบรห์ 142 (2)
2013–2014มิลล์วอลล์(ยืมตัว) 5 (0)
2014–2015 มิลล์วอลล์ 2 (0)
2015–2016 ดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์ 25 (0)
2017–2018 เอฟซี ซินซินแนติ​ (ยูเอสแอล)​ 47 (2)
2019 เอฟซี ซินซินแนติ​ (เอ็มเอสแอล​)​ 17 (0)
รวม 284 (6)
ทีมชาติ
2004–2007 ทีมชาติอังกฤษ ยู 21 18 (1)
2013– ตรินิแดดและโตเบโก 18 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22:35, 15 ตุลาคม ค.ศ. 2018 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 16:14, 6 เมษายน ค.ศ. 2016 (UTC)

จัสติน เรย์มอนด์ ฮอยต์ (อังกฤษ: Justin Raymond Hoyte, เกิดวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1984 ที่ประเทศอังกฤษ) เป็นนักฟุตบอลชาวตรินิแดดและโตเบโก ตำแหน่งกองหลัง

โดยจัสติน ฮอยต์ เคยเล่นในระดับพรีเมียร์ลีกกับสโมสรอาร์เซนอล, ซันเดอร์แลนด์และ มิดเดิลสโบรห์ และเป็นผู้เล่นทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก ชุดที่แข่งขันในรายการคอนคาแคฟ โกลด์คัพ 2013 และชุดรองแชมป์แคริบเบียน คัพ 2014

ครอบครัวของจัสติน ฮอยต์ ถือได้ว่าเป็นครอบครัวนักกีฬา โดยเกวิน ฮอยต์น้องชายของเขาเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหลังที่เคยเล่นให้กับอาร์เซนอล,ไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน และติดทีมชาติตรินิแดดฯเช่นเดียวกันกับเขา นอกจากนี้แม่ของเขา เวนดี ฮอยต์ เป็นนักวิ่งชื่อดังของทีมชาติสหราชอาณาจักรและเคยลงแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา รวมทั้งเป็นหนึ่งในตัวแทนทีมชาติอังกฤษที่ได้เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาคอมมอนเวลธ์เกมส์ ปี 1982 ที่ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย อีกทั้งพ่อของเขา เลส ฮอยต์ ก็เป็นนักวิ่งเช่นเดียวกัน

การเล่นฟุตบอลระดับสโมสร

[แก้]

อาร์เซนอล

[แก้]

จัสติน ฮอยต์ เข้ามาสู่สโมสรอาร์เซนอลตั้งแต่อายุ 9 ปี โดยได้รับคัดเลือกให้เข้ามาฝึกในศูนย์ฝึกเยาวชน และได้เล่นให้กับทีมชุดเยาวชนตลอดจนทีมสำรอง ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในปี 2003 โดยเริ่มเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาและเคยเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายเมื่อครั้งถูกยืมตัวไปเล่นให้กับสโมสรซันเดอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังเคยเล่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง

โดยจัสติน ฮอยต์ มีโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของอาร์เซนอลเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2003 ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก นัดที่เอาชนะ สโมสรเซาแธมป์ตันไปได้ 6–0 ที่สนามไฮบิวรี โดยเขาเป็นตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นในนาทีที่ 89 แทน เจอร์เมน เพนแนนท์ ที่เพิ่งยิงแฮตทริกได้ โดยในฤดูกาลนั้นอาร์เซนอลสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้สำเร็จ แต่จัสติน ฮอยต์ ที่เป็นตัวสำรองของทีมถูกส่งลงสนามไม่มากพอที่จะได้รับเหรียญรางวัลจากทางพรีเมียร์ลีก

ในฤดูกาล 2004–2005 เขาได้ลงสนามมากขึ้น และยังเคยขยับไปเล่นเป็นปราการหลังตัวกลางเพื่อทดแทนการบาดเจ็บของปาสกาล ซีก็อง

ในเดือนสิงหาคม ปี 2005 จัสติน ฮอยต์ ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรซันเดอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของมิค แมคคาร์ธีย์ ด้วยสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาล 2005–2006 ที่สโมสรซันเดอร์แลนด์เขาได้เป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมในตำแหน่งแบ็คซ้ายและสามารถยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในเกมส์ไทน์-เวียร์ดาร์บี้แมตช์ที่พบกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่สนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลต์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน ปี 2006 ซึ่งสุดท้ายแม้เขาจะยิงได้แต่ซันเดอร์แลนด์แพ้คาบ้านไป 1-4 และตกชั้นเมื่อจบฤดูกาล

ฤดูกาล 2006–2007 จัสติน ฮอยต์ กลับมาอยู่กับอาร์เซนอล และได้รับโอกาสในทีมเมื่อสโมสรขายแอชลีย์ โคล แบ็คซ้ายตัวเก่งของทีมไปให้กับสโมสรเชลซี และกาแอล กลีชี แบ็คซ้ายอีกคนมีอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาเริ่มต้นฤดูกาลด้วยตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงของทีมเป็นการชั่วคราว เมื่อกาแอล กลีชีหายจากอาการบาดเจ็บ จัสติน ฮอยต์ ก็ได้เล่นตำแหน่งแบ็คขวาซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาถนัด เพราะเอ็มมานูเอล เอบูเอ แบ็คขวาตัวจริงเกิดบาดเจ็บ เขาจึงถือว่าเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ในแผงหลังคนหนึ่ง

ต่อมาเขาสามารถยิงประตูแรกให้อาร์เซนอลได้ในเกมส์พรีเมียร์ลีก นัดลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ที่พบกับสโมสรชาร์ลตัน แอธเลติก ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ผลจบลงที่อาร์เซนอล ถล่มชาร์ลตัน แอธเลติก 4–0 ทำให้จัสติน ฮอยต์ถือเป็นนักเตะที่มีเชื้อสายอังกฤษคนแรกที่ยิงประตูได้ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007 มาร์ติน โอนีล ผู้จัดการสโมสรแอสตันวิลลาในขณะนั้น ได้ยื่นข้อเสนอมูลค่า 4.5 ล้านปอนด์ให้อาร์เซนอล เพื่อขอซื้อตัวจัสติน ฮอยต์มาร่วมทีม แต่ถูกปฏิเสธจากอาร์แซน แวงแกร์ ที่ต้องการใช้งานเขาในฤดูกาล 2007–2008

มิดเดิลสโบรห์

[แก้]

เดือนสิงหาคม ปี 2008 แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมมิดเดิลสโบรห์ คว้าตัว จัสติน ฮอยต์มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว3ล้านปอนด์ ถึงแม้เขาจะได้เป็นผู้เล่นตัวหลักแต่ผลงานของทีมไม่ดีนักและถึงขนาดตกชั้นเมื่อจบฤดูกาล 2008-2009

จัสติน ฮอยต์ยิงประตูแรกให้มิดเดิลสโบรห์ได้ในวันที่ 28 ธันวาคม ปี 2009 ในเกมส์ลีกเดอะ แชมเปียนชิพ ฤดูกาล 2009-2010 ที่สนามโอคเวล โดยเขายิงให้ทีมบุกมานำบาร์นสลีย์ 1-0 ก่อนจบด้วยการแพ้เจ้าถิ่น 2-1

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการทีมเป็นโทนี่ โมวเบรย์ ในปี 2010 จัสติน ฮอยต์ก็กลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม โดยในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 เขายิงประตูที่ 2 ในลีกให้ต้นสังกัดได้ในเกมส์ที่ชนะสโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 3-1 ที่สนามริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม

เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 สโมสรเซ็นสัญญาคว้าตัวเฟรเซอร์ ริชาร์ดสัน กองหลังจากสโมสรเซาแธมป์ตันเข้ามาเพิ่ม ทำให้สโมสรแถลงพร้อมปล่อยตัวจัสติน ฮอยต์ หากได้รับข้อเสนอเป็นที่น่าพอใจ

มิลล์วอลล์

[แก้]

เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2013 สตีฟ โลมาส อดีตดาวเตะทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ ที่เคยค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ซิตี รวมถึงเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรมิลล์วอลล์ในขณะนั้น เซ็นสัญญาคว้าตัว จัสติน ฮอยต์ มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวในระยะเวลาสั้นๆจนถึงวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2014

หลังจากหมดสัญญายืมตัว สโมสรมิลล์วอลล์ตัดสินใจ ซื้อตัวเขามาร่วมทีมแบบถาวรในเดือน มกราคม 2014

ดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์

[แก้]

การเล่นให้ทีมชาติ

[แก้]

จัสติน ฮอยต์ เป็นนักฟุตบอลที่สามารถเลือกเล่นได้ทั้งทีมชาติอังกฤษ และ ทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก โดยฮอยต์เคยเล่นให้ทีมชาติอังกฤษชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ในรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2007 รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และช่วยให้ทีมผ่านเข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย ก่อนจะแพ้เจ้าภาพเนเธอร์แลนด์ในการดวลจุดโทษ

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2013 จัสติน ฮอยต์ ประกาศเลือกเล่นให้ทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก ในทีมชาติชุดใหญ่ และลงสนามให้ทีมชาตินัดแรกในเกมส์กระชับมิตรกับทีมชาติโรมาเนีย วันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2013 ที่สนามเดอะ เนชันแนล อารีนา กรุงบูคาเรสต์ ซึ่งผลจบลงที่ทีมชาติโรมาเนีย ชนะไป 4-0

เดือนต่อมาเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก ในการแข่งขันฟุตบอลคอนคาเคฟ โกลด์คัพ 2013 ที่สหรัฐอเมริกา โดยลงเล่นในสองนัดแรกที่พบกับทีมชาติเอล ซัลวาดอร์ และทีมชาติเฮติ จากนั้นเขาได้รับบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบทำให้ไม่สามารถลงเล่นต่อได้ทั้งทัวร์นาเมนต์ โดยทีมชาติตรินิแดดและโตเบโกเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนตกรอบด้วยการแพ้เม็กซิโก 1-0

เดือนพฤศจิกายน 2014 สตีเฟน ฮาร์ต ผู้จัดการทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก เรียกตัวจัสติน ฮอยต์ มาเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติชุดแข่งขันฟุตบอล แคริบเบียน คัพ 2014 รอบสุดท้าย ที่เมืองมอนเตโก เบย์ ประเทศจาเมกา โดยจัสติน ฮอยต์ ถูกส่งลงเล่นตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ และพาทีมคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศมาได้

ผลงาน

[แก้]

อาร์เซนอล

[แก้]

ทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก

[แก้]
  • แคริบเบียน คัพ :รองแชมป์ (ปี 2014)
pFad - Phonifier reborn

Pfad - The Proxy pFad of © 2024 Garber Painting. All rights reserved.

Note: This service is not intended for secure transactions such as banking, social media, email, or purchasing. Use at your own risk. We assume no liability whatsoever for broken pages.


Alternative Proxies:

Alternative Proxy

pFad Proxy

pFad v3 Proxy

pFad v4 Proxy