ข้ามไปเนื้อหา

โทมัส เรตต์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โทมัส เรตต์
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดโทมัส เรตต์ เอคินส์ จูเนียร์
เกิด (1990-03-30) 30 มีนาคม ค.ศ. 1990 (34 ปี)[1]
วัลดอสตา รัฐจอร์เจีย
ที่เกิดแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี
แนวเพลง
อาชีพ
  • นักร้อว
  • นักแต่งเพลง
เครื่องดนตรี
  • ร้องนำ
  • กีตาร์
  • กลอง
ช่วงปี2010–ปัจจุบัน
ค่ายเพลงวาลอรีมิวสิกกรุป
คู่สมรสลอเรน เกรกอรี
เว็บไซต์thomasrhett.com

โทมัส เรตต์ เอคินส์ จูเนียร์ (อังกฤษ: Thomas Rhett Akins, Jr.) (เกิด 30 มีนาคม ค.ศ. 1990) ใช้ชื่อในวงการว่า โทมัส เรตต์ เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงคันทรีชาวอเมริกัน เขาเป็นบุตรของนักร้องนักแต่งเพลงคันทรีชาวอเมริกันชื่อ เรตต์ เอคินส์[3] เรตต์ออกสตูดิโออัลบั้มกับสังกัดบิกแมชีนเรเคิดส์สองอัลบั้ม ได้แก่ อิตโกส์ไลก์ดิส (2013) และแทงเกิลด์อัป (2015) มีซิงเกิลที่ติดชาร์ตฮอตคันทรีซองส์และคันทรีแอร์เพลย์สิบซิงเกิล ในจำนวนนี้มีเจ็ดซิงเกิลที่เคยขึ้นอันดับ 1 ได้แก่เพลง "อิตโกส์ไลก์ดิส" "เกตมีซัมออฟแดต" "เครฟวิงยู" "เมกมีวอนนา" "แครชแอนด์เบิร์น" "ดายอะแฮปปีแมน" "ทีเชิร์ต" และ "สตาร์ออฟเดอะโชว์" นอกจากงานเพลงของตนเอง เรตต์ยังเคยแต่งเพลงให้เจสัน อัลดีน ลี ไบรซ์ และฟลอริดาจอร์เจียไลน์ด้วย

ชีวิตช่วงแรก

[แก้]

เรตต์เติบโตมาพร้อมกับบุคคลตัวอย่างอย่างทิม แม็กกรอว์ หรือบรุกส์แอนด์ดันน์ เนื่องจากเรตต์ เอคินส์ บิดาของเขา เคยเป็นนักร้องคันทรีชื่อดัง[4] เรตต์เคยเรียนการเล่นกลองสมัยเรียนไฮสกูล เพื่อว่าเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะขึ้นเล่นกลองให้บิดาของเขาบนเวที ในไฮสกูล เขาเคยมีวงดนตรีชื่อ เดอะไฮฮีลด์ฟลิปฟลอปส์[5] นอกจากดนตรีแล้ว เขาไม่ได้สนใจอาชีพอื่น ๆ หลังจบไฮสกูล เรตต์เข้าเรียนวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยลิปสโคมบ์ ในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เพื่อเรียนการสื่อสาร เนื่องจากเพื่อนของเขาเข้าเรียนวิทยาลัยแล้วเขาว่าง ไม่มีกิจกรรมใด ๆ ให้ทำ[6] ความสนใจในดนตรีเริ่มมีมากขึ้นจนทำให้เขาผิดสัญญากับมารดา และหยุดเรียนเมื่ออายุได้ 20 ปี เพื่อออกมาทำงานดนตรี[7] คืนหนึ่งขณะเล่นดนตรี ผู้บริหารคนหนึ่งจากสังกัดบิกแมชีนเลเบลกรุปมาพบเขา และเสนอให้เขาแต่งเพลง เขาตกลงและเริ่มแต่งเพลงหลายเพลงให้กับบริษัท[4]

อาชีพ

[แก้]

การแต่งเพลง

[แก้]

เรตต์ร่วมแต่งเพลง "ไอเอนต์เรดีทูควิต" ให้เจสัน อัลดีน ในอัลบั้มมายคายดาปาร์ตี และเซ็นสัญญากับค่ายบิกแมชีนเรเคิดส์ แผนกแวลอรีมิวสิกกรุป เมื่อปี ค.ศ. 2011 ในช่วง 21 สัปดาห์แรก อัลบั้มติด 40 อันดับแรกในชาร์ตบิลบอร์ด 200 ขายได้มากกว่า 1.7 ล้านชุดในปีแรกที่จำหน่าย[8] เรตต์ยังร่วมแต่งซิงเกิล "1994" ให้เจสัน อัลดีน "พาร์กกิงลอตปาร์ตี" ให้ลี ไบรซ์ และ "ราวด์เฮียร์" ให้ฟลอริดาจอร์เจียไลน์ ในชาร์ตสัปดาห์ลงวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2013 ชาร์ตคันทรีแอร์เพลย์มีเพลงที่เรตต์หรือบิดาของเขาร่วมแต่งติดสิบอันดับแรกถึง 5 เพลง รวมถึงเพลง "อิตโกส์ไลก์ดิส"[9]

2012-15: อิตโกส์ไลก์ดิส

[แก้]

ต้นปี ค.ศ. 2012 เขาออกซิงเกิลเปิดตัว "ซัมทิงทูดูวิทมายแฮนส์" ตามมาด้วย "เบียร์วิทจีซัส" ในปีเดียวกัน สองเพลงนี้ติดสามสิบอันดับแรกบนชาร์ตฮอตคันทรี ซิงเกิลที่สาม "อิตโกส์ไลก์ดิส" ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตคันทรีแอร์เพลย์ และอันดับสองบนชาร์ตฮอตคันทรี

อัลบั้มแรกของเขาใช้ชื่อว่า อิตโกส์ไลก์ดิส ออกจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2013[10] ซิงเกิลที่สี่ "เกตมีซัมออฟแดต" เป็นซิงเกิลอันดับ 1 ซิงเกิลที่สองในต้นปี ค.ศ. 2014 ซิงเกิลที่ห้า "เมกมีวอนนา" ออกจำหน่ายสู่คลื่นวิทยุเพลงคันทรีในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2014 เพลงขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตคันทรีแอร์เพลย์ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2015 ในระหว่าวสองซิงเกิลนี้ เรตต์ และ จัสติน มัวร์ ร้องรับเชิญให้แบรนต์ลีย์ กิลเบิร์ต ในเพลง "สมอลทาวน์โทรว์ดาวน์"

2015-17: แทงเกิลด์อัป

[แก้]

ในวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 2015 เรตต์ออกซิงเกิล "แครชแอนด์เบิร์น" เป็นซิงเกิลแรกจากสตูดิโออัลบั้มที่สอง อัลบั้ม แทงเกิลด์อัป ออกจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน[11] เพลงขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตคันทรีแอร์เพลย์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2015 ซิงเกิลที่สอง "ดายอะแฮปปีแมน" ออกจำหน่ายสู่คลื่นวิทยุเพลงคันทรีในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2015 เพลงขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตคันทรีแอร์เพลย์ ฮอตคันทรีซองส์ และแคนาดาคันทรี ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2015 และมกราคม ค.ศ. 2016 เพลงติดอันดับ 1 บนชาร์ตคันทรีแอร์เพลย์นาน 8 สัปดาห์ เป็นเพลงที่สองในประวัติศาสตร์ของชาร์ต ซิงเกิลที่สาม "ทีเชิร์ต" ออกสู่คลื่นวิทยุเพลงคันทรีในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เพลงขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตคันทรีแอร์เพลย์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2016 แต่ได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับเนื้อเพลง ซิงเกิลที่สี่ "เวเคชัน" ออกสู่คลื่นวิทยุเพลงคันทรีในวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 2016 ซิงเกิลที่ห้าออกพร้อมเวอร์ชันดีลุกซ์ "สตาร์ออฟเดอะโชว์" ออกสู่คลื่นวิทยุเพลงคันทรีในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2016

2017-ปัจจุบัน: ไลฟ์เชนเจส

[แก้]

สตูดิโออัลบั้มที่สาม ไลฟ์เชนเจส ออกจำหน่ายในวันที่ 8 กันยายน ซิงเกิลแรกคือ "เครวิงยู" ร้องรับเชิญโดยแมเรน มอร์ริส[12] ตามมาด้วยซิงเกิล "อันฟอร์เกตเทเบิล" อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ด 200[13]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Thomas Rhett". Yourcountry.tv. สืบค้นเมื่อ 21 May 2013.
  2. "Brett Eldredge and Thomas Rhett Take Their R&B-Tinged Brands of Country on the Road". Billboard (magazinfe). 17 September 2015. สืบค้นเมื่อ 5 February 2016.
  3. Conaway, Alanna (July 21, 2011). "Thomas Rhett Gets His Turn in the Spotlight". Taste of Country. สืบค้นเมื่อ February 29, 2012.
  4. 4.0 4.1 Josh McAuliffe (Staff Writer). "Thomas Rhett one to watch in Jason Aldean tour coming to Montage on Sunday". thetimes-tribune.com. สืบค้นเมื่อ 2016-02-15.
  5. "Thomas Rhett". Thomasrhett.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-21. สืบค้นเมื่อ 2015-06-02.
  6. "In Interview: country music star Thomas Rhett on Tangled Up - Live Manchester". Live Manchester (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2016-12-01. สืบค้นเมื่อ 2017-04-19.
  7. Luis Gomez (2013-10-29). "Interview: Country singer Thomas Rhett following in his father's footsteps". Chicago Tribune. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-25. สืบค้นเมื่อ 2016-07-29.
  8. Caulfield, K. (2014, Oct 25). Jason aldean puts on his boots at no. 1. Billboard - the International Newsweekly of Music, Video and Home Entertainment, 126, 80-81.
  9. Conaway, Alanna (2013-09-17). "Thomas Rhett and Rhett Akins Make Chart History As Family Is Responsible for Writing Half of the Top 10". RoughStock.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-02. สืบค้นเมื่อ 2015-06-02.
  10. Whitaker, Sterling (August 23, 2013). "Thomas Rhett Reveals Cover Art, Release Date + Track Listing for Debut Album". The Boot. สืบค้นเมื่อ August 23, 2013.
  11. Vinson, Christina (June 29, 2015). "Thomas Rhett Announces Sophomore Album, 'Tangled Up'". The Boot. สืบค้นเมื่อ June 29, 2015.
  12. "Thomas Rhett Announces Duet with Maren Morris, 'Craving You'". Sounds Like Nashville (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2017-03-24. สืบค้นเมื่อ 2017-03-24.
  13. Caulfield, Keith (September 17, 2017). "Thomas Rhett Earns First No. 1 Album on Billboard 200 Chart & Country's First of 2017". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 17, 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
pFad - Phonifier reborn

Pfad - The Proxy pFad of © 2024 Garber Painting. All rights reserved.

Note: This service is not intended for secure transactions such as banking, social media, email, or purchasing. Use at your own risk. We assume no liability whatsoever for broken pages.


Alternative Proxies:

Alternative Proxy

pFad Proxy

pFad v3 Proxy

pFad v4 Proxy